#อย่าสักแต่ว่า..พูด#
๑๐.
ภุญฺชนตฺถํ กถนตฺถํ, มุขํ โหตีติ โน วเท;
ยํ วา ตํ วา มุขารุฬฺหํ, วจนํ ปณฺฑิโต นโรฯ
„ชนผู้เป็นบัณฑิต จะไม่พูดจาเหลวไหล
ด้วยคิดว่า มีปากเอาไว้สำหรับกิน
และมีเอาไว้สำหรับพูด.“
(#กวิทัปปณนีติ, หมวดบัณฑิต, คาถาที่ ๑๐, #นรทักขทีปนี ๙๐)
……………….
ศัพท์น่ารู้ :
#ภุญฺชนตฺถํ (เพื่อประโยชน์แก่การกิน, เพื่อรับประทาน)
#กถนตฺถํ (เพื่อประโยขน์แก่การกล่าว, เพื่อการพูด)
#มุขํ (ปาก, หน้า, มุข) มุข+สิ
#โหตีติ ตัดบทเป็น โหติ+อิติ (ย่อมมี+ว่า....ดังนี้)
#โน (ไม่, หามิได้, โน) นิบาตบอกปฏิเสธ
#วเท (พึงกล่าว, พูด) วท+อ+เอยฺย ภูวาทิ. กัตตุ.
#ยํ วา ตํ วา (อย่างใดอย่างหนึ่ง, สักแต่ว่า, พล่อยๆ, อะไรก็ได้) ย+สิ, ต+สิ สัพพนาม, วา สองศัพท์เป็นนิบาต. (คำนี้ ท่านอาจารย์สมภพ สงวนพานิช ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนดีแล้ว ที่: http://dhammapalisikkha.blogspot.de/2016/06/blog-post_3.html)
#มุขารุฬฺหํ (ที่งอกขึ้นจากปาก ที่งอกเงยในปาก) มุข (ปาก) + อารุฬฺห (งอกขึ้น) > มุขรุฬฺห+อํ
#วจนํ (คำ, ถ้อยคำ, พจน์) วจน+อํ
#ปณฺฑิโต (บัณฑิต, ผู้มีปัญญา, นักปราชญ์) ปณฺฑิต+สิ
#นโร (นรชน, คน, มนุษย์) นร+สิ
……………….
๑๐.
ภุญฺชนตฺถํ กถนตฺถํ, มุขํ โหตีติ โน วเท;
ยํ วา ตํ วา มุขารุฬฺหํ, วจนํ ปณฺฑิโต นโรฯ
„ชนผู้เป็นบัณฑิต จะไม่พูดจาเหลวไหล
ด้วยคิดว่า มีปากเอาไว้สำหรับกิน
และมีเอาไว้สำหรับพูด.“
(#กวิทัปปณนีติ, หมวดบัณฑิต, คาถาที่ ๑๐, #นรทักขทีปนี ๙๐)
……………….
ศัพท์น่ารู้ :
#ภุญฺชนตฺถํ (เพื่อประโยชน์แก่การกิน, เพื่อรับประทาน)
#กถนตฺถํ (เพื่อประโยขน์แก่การกล่าว, เพื่อการพูด)
#มุขํ (ปาก, หน้า, มุข) มุข+สิ
#โหตีติ ตัดบทเป็น โหติ+อิติ (ย่อมมี+ว่า....ดังนี้)
#โน (ไม่, หามิได้, โน) นิบาตบอกปฏิเสธ
#วเท (พึงกล่าว, พูด) วท+อ+เอยฺย ภูวาทิ. กัตตุ.
#ยํ วา ตํ วา (อย่างใดอย่างหนึ่ง, สักแต่ว่า, พล่อยๆ, อะไรก็ได้) ย+สิ, ต+สิ สัพพนาม, วา สองศัพท์เป็นนิบาต. (คำนี้ ท่านอาจารย์สมภพ สงวนพานิช ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนดีแล้ว ที่: http://dhammapalisikkha.blogspot.de/2016/06/blog-post_3.html)
#มุขารุฬฺหํ (ที่งอกขึ้นจากปาก ที่งอกเงยในปาก) มุข (ปาก) + อารุฬฺห (งอกขึ้น) > มุขรุฬฺห+อํ
#วจนํ (คำ, ถ้อยคำ, พจน์) วจน+อํ
#ปณฺฑิโต (บัณฑิต, ผู้มีปัญญา, นักปราชญ์) ปณฺฑิต+สิ
#นโร (นรชน, คน, มนุษย์) นร+สิ
……………….
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen