#สถานที่ไม่ควรพักอาศัย#
๑๑๔.
ยสฺมึ ปเทเส น มาโน, น เปมํ น จ พนฺธวา;
น จ วิชฺชาคโม โกจิ, น ตตฺถ ทิวสํ วเสฯ
„ณ สถานที่ใดไม่มีความนับถือกัน,
ไม่มีความรักให้กัน ไม่มีเพื่อนพ้อง;
และไม่มีการเรียนวิชาความรู้ที่เป็นประโยชน์,
ณ สถานที่นั้น ไม่ควรอยู่นานสิ้นวันหนึ่ง.
(#โลกนีติ หมวดราชา คาถาที่ ๑๑๔, #ธัมมนีติ-๘๒, #มหารหนีติ ๖๙, #กวิทัปปณนีติ ๑๑๗, #จาณักยนีติ ๓๗)
……………….
ศัพท์น่ารู้ :
#ยสฺมึ (ใด) ย+สฺมึ, สัพพนาม
#ปเทเส (ในประเทศ, สถานที่) ปเทส+สฺมึ
#น (ไม่, หามิได้) เป็นนิบาตบอกปฏิเสธ
#สมาโน (มีความเคารพกัน, มีความนับถือกัน, การบูชา) สมฺมาน+สิ (ในกวิทัปปณนีติ เป็น สมฺมาโน)
#เปมํ (ความรัก, เปรมปรีย์, แช่มชื่นใจ) ปีติ+สิ (กวิทัปปณนีติ เป็น ปิโย, ธัมมนีติ เป็น ปีติ)
#จ (ด้วย, และ) เป็นนิบาตใช้ในอรรถรวบรวม (สมุจจยัตถะ)
#พนฺธวา (มีญาติ, พวกพ้อง, เผ่าพันธุ์ ท.) พนฺธวนฺตุ+สิ, แจกเหมือน คุณวนฺตุ. (หรืออาจเป็น พนฺธว+โย)
ส่วนในธัมมนีติ เป็น พนฺธโว มาจาก พนฺธุ+โย แปลง โย เป็น โว ได้บ้าง ด้วยสูตรว่า ลโต โวกาโร จ. (รู ๑๕๕), แปลง อุ เป็น อ ด้วยสูตรว่า เวโวสุ โล จ. (๑๕๖) สำเร็จรูปเป็น พนฺธโว (ญาติ ท.) แจกและทำตัวเหมือน ภิกฺขุ (พระภิกษุ)
#วิชฺชาคโม (การเรียน-, การศึกษาวิชา) วิชฺขา+อาคม > วิชฺชาคม+สิ วิ. วิชฺชาย อาคโม วิชฺชาคโม (การเรียนวิชา ชื่อว่า วิชฺชาคโม) ฉัฏฐีตัปปุริสสมาส
#โกจิ (ไรๆ, บางอย่าง, บ้างเลย) -ปุงลิงค์, กาจิ -อิตฺถีลิงค์, กิญฺจิ -นปุงสกลิงค์ มาจาก กึ+สิ+จิ
#ตตฺถ (ในประเทศนั้น = ตสฺมึ ปเทเส) ต+ถ ลง ถ ปัจจัยหลังสัพพนามทั้งหลาย ในอรรถสัตตมีวิภัตติ ได้บ้าง ด้วยสูตรว่า ตฺรถ สตฺตมิยา สพฺพนาเมหิ. (รู ๒๖๖)
#ทิวสํ (สิ้นวัน, ตลอดวัน) ทิวส+อํ
#วเส (พึงอยู่, พึงพัก, ควรอาศัย) วส+อ+เอยฺย, ภูวาทิ. กัตตุ.
……………….
๑๑๔.
ยสฺมึ ปเทเส น มาโน, น เปมํ น จ พนฺธวา;
น จ วิชฺชาคโม โกจิ, น ตตฺถ ทิวสํ วเสฯ
„ณ สถานที่ใดไม่มีความนับถือกัน,
ไม่มีความรักให้กัน ไม่มีเพื่อนพ้อง;
และไม่มีการเรียนวิชาความรู้ที่เป็นประโยชน์,
ณ สถานที่นั้น ไม่ควรอยู่นานสิ้นวันหนึ่ง.
(#โลกนีติ หมวดราชา คาถาที่ ๑๑๔, #ธัมมนีติ-๘๒, #มหารหนีติ ๖๙, #กวิทัปปณนีติ ๑๑๗, #จาณักยนีติ ๓๗)
……………….
ศัพท์น่ารู้ :
#ยสฺมึ (ใด) ย+สฺมึ, สัพพนาม
#ปเทเส (ในประเทศ, สถานที่) ปเทส+สฺมึ
#น (ไม่, หามิได้) เป็นนิบาตบอกปฏิเสธ
#สมาโน (มีความเคารพกัน, มีความนับถือกัน, การบูชา) สมฺมาน+สิ (ในกวิทัปปณนีติ เป็น สมฺมาโน)
#เปมํ (ความรัก, เปรมปรีย์, แช่มชื่นใจ) ปีติ+สิ (กวิทัปปณนีติ เป็น ปิโย, ธัมมนีติ เป็น ปีติ)
#จ (ด้วย, และ) เป็นนิบาตใช้ในอรรถรวบรวม (สมุจจยัตถะ)
#พนฺธวา (มีญาติ, พวกพ้อง, เผ่าพันธุ์ ท.) พนฺธวนฺตุ+สิ, แจกเหมือน คุณวนฺตุ. (หรืออาจเป็น พนฺธว+โย)
ส่วนในธัมมนีติ เป็น พนฺธโว มาจาก พนฺธุ+โย แปลง โย เป็น โว ได้บ้าง ด้วยสูตรว่า ลโต โวกาโร จ. (รู ๑๕๕), แปลง อุ เป็น อ ด้วยสูตรว่า เวโวสุ โล จ. (๑๕๖) สำเร็จรูปเป็น พนฺธโว (ญาติ ท.) แจกและทำตัวเหมือน ภิกฺขุ (พระภิกษุ)
#วิชฺชาคโม (การเรียน-, การศึกษาวิชา) วิชฺขา+อาคม > วิชฺชาคม+สิ วิ. วิชฺชาย อาคโม วิชฺชาคโม (การเรียนวิชา ชื่อว่า วิชฺชาคโม) ฉัฏฐีตัปปุริสสมาส
#โกจิ (ไรๆ, บางอย่าง, บ้างเลย) -ปุงลิงค์, กาจิ -อิตฺถีลิงค์, กิญฺจิ -นปุงสกลิงค์ มาจาก กึ+สิ+จิ
#ตตฺถ (ในประเทศนั้น = ตสฺมึ ปเทเส) ต+ถ ลง ถ ปัจจัยหลังสัพพนามทั้งหลาย ในอรรถสัตตมีวิภัตติ ได้บ้าง ด้วยสูตรว่า ตฺรถ สตฺตมิยา สพฺพนาเมหิ. (รู ๒๖๖)
#ทิวสํ (สิ้นวัน, ตลอดวัน) ทิวส+อํ
#วเส (พึงอยู่, พึงพัก, ควรอาศัย) วส+อ+เอยฺย, ภูวาทิ. กัตตุ.
……………….
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen