#จันทร์ไร้ราตรี สตรีไร้คู่#
๑๐๒.
น รตฺติ วินา จนฺทิมา, วีจึ วินา จ อณฺณโว;
หํสํ วินา โปกฺขรณี, ปตึ กญฺญา จ โสภเตฯ
“พระจันทร์ปราศจากราตรี ย่อมไม่งาม,
ท้องทะเลปราศจากคลื่น ย่อมไม่งาม,
สระโบกขรณี ขาดหมู่หงส์ ย่อมไม่งาม,
กุลสตรีปราศจากสามี ย่อมไม่งาม.“
(#โลกนีติ หมวดหญิง คาถาที่ ๑๐๒, #กวิทัปปณนีติ ๓๐๔, #ธัมมนีติ ๒๖๑)
……………….
ศัพท์น่ารู้ :
คาถานี้ แบ่งเป็น ๔ ประโยค เวลาแปลต้องเติมศัพท์มาให้ครบ เพื่อให้ใด้ใจความสมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น.
๑.) น รตฺติ วินา จนฺทิมา (โสภเต.)
พระจันทร์ปราศจากราตรี ย่อมงาม หามิได้.
๒.) วีจึ วินา จ อณฺณโว (น โสภเต.)
ท้องทะเล ปราศจากเคลื่อน ย่อมไม่งาม.
๓.) หํสํ วินา โปกฺขรณี (น โสภเต.)
สระโบกขรณี ปราศจากหมู่หงส์ ย่อมไม่งาม.
๔.) ปตึ (วินา) กญฺญา จ (น) โสภเต.
กุลสตรี ปราศจากสามี ย่อมไม่งาม เช่นกัน.
#น (ไม่, หามิได้) นิบาตบอกปฏิเสธ
#รตฺติ (กลางคืน) รตฺติ+อํ, รตฺติ มาจาก = รนฺช-ราเค+ตฺติ+สิ, อิการันต์, อิตถีลิงค์ วิเคราะห์ว่า: รนฺชติ เอตฺถาติ รตฺติ.
(สัตว์ทั้งหลาย ย่อมกำหนัดในช่วงเวลานี้ เหตุนั้น ช่วงเวลานี้ ชื่อว่า รตฺติ,
หรือ กลางคืน ชือว่า รตฺติ เพราะอรรถว่า เป็นเวลากำหนัดของเหล่าสัตว์),
ลง ตฺติ ปัจจัย หลัง รนฺช ธาตุ ๆ ในอรรถว่ากำหนัด (ย้อม) ด้วยสูตรว่า “มิทาทีหิ ตฺติติโย.“ (แปลว่า) ลง ตฺติ และ ติ ปัจจัยทั้งหลาย หลัง มิท ธาตุเป็นต้น (รู ๖๖๘).
#วินา (เว้น) นิบาต, ส่วนในกวิทัปปณนีติ ท่านเขียนติดกัน เป็น รตฺติวินา, วีจิวินา, หํสวินา, ปติวินา.
#จนฺทิมา (พระจันทร์, ดวงเดือน, อีเกิ้ง) จนฺทิมนฺตุ+สิ
#วีจึ (เคลื่อนทะเล) วีจิ+อํ, หรือเป็น วีจึวินา,วีจิวินา ก็ได้.
#จ (และ, ด้วย) นิบาต
#อณฺณโว (อรรณพ, ทะเล) อณฺณว+สิ
#หํสํ (หงส์) หํส+อํ, หรือเป็น หํสํวินา, หํสวินา ก็ได้.
#โปกฺขรณี,
#ปตึ (เจ้าของ, ผัว, สามี) ปติ+อํ
#กญฺญา (สาวน้อย, นางสาว, หญิง) กญฺญา+สิ
#โสภเต (ย่อมงาม, สง่า) สุภ+อ+เต ภูวาทิ. กัตตุ. ในกวิทัปปณนีติบาทคาถาสุดท้ายนี้ เป็น ปติวินา กญฺญา โสเภฯ.
……………….
๑๐๒.
น รตฺติ วินา จนฺทิมา, วีจึ วินา จ อณฺณโว;
หํสํ วินา โปกฺขรณี, ปตึ กญฺญา จ โสภเตฯ
“พระจันทร์ปราศจากราตรี ย่อมไม่งาม,
ท้องทะเลปราศจากคลื่น ย่อมไม่งาม,
สระโบกขรณี ขาดหมู่หงส์ ย่อมไม่งาม,
กุลสตรีปราศจากสามี ย่อมไม่งาม.“
(#โลกนีติ หมวดหญิง คาถาที่ ๑๐๒, #กวิทัปปณนีติ ๓๐๔, #ธัมมนีติ ๒๖๑)
……………….
ศัพท์น่ารู้ :
คาถานี้ แบ่งเป็น ๔ ประโยค เวลาแปลต้องเติมศัพท์มาให้ครบ เพื่อให้ใด้ใจความสมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น.
๑.) น รตฺติ วินา จนฺทิมา (โสภเต.)
พระจันทร์ปราศจากราตรี ย่อมงาม หามิได้.
๒.) วีจึ วินา จ อณฺณโว (น โสภเต.)
ท้องทะเล ปราศจากเคลื่อน ย่อมไม่งาม.
๓.) หํสํ วินา โปกฺขรณี (น โสภเต.)
สระโบกขรณี ปราศจากหมู่หงส์ ย่อมไม่งาม.
๔.) ปตึ (วินา) กญฺญา จ (น) โสภเต.
กุลสตรี ปราศจากสามี ย่อมไม่งาม เช่นกัน.
#น (ไม่, หามิได้) นิบาตบอกปฏิเสธ
#รตฺติ (กลางคืน) รตฺติ+อํ, รตฺติ มาจาก = รนฺช-ราเค+ตฺติ+สิ, อิการันต์, อิตถีลิงค์ วิเคราะห์ว่า: รนฺชติ เอตฺถาติ รตฺติ.
(สัตว์ทั้งหลาย ย่อมกำหนัดในช่วงเวลานี้ เหตุนั้น ช่วงเวลานี้ ชื่อว่า รตฺติ,
หรือ กลางคืน ชือว่า รตฺติ เพราะอรรถว่า เป็นเวลากำหนัดของเหล่าสัตว์),
ลง ตฺติ ปัจจัย หลัง รนฺช ธาตุ ๆ ในอรรถว่ากำหนัด (ย้อม) ด้วยสูตรว่า “มิทาทีหิ ตฺติติโย.“ (แปลว่า) ลง ตฺติ และ ติ ปัจจัยทั้งหลาย หลัง มิท ธาตุเป็นต้น (รู ๖๖๘).
#วินา (เว้น) นิบาต, ส่วนในกวิทัปปณนีติ ท่านเขียนติดกัน เป็น รตฺติวินา, วีจิวินา, หํสวินา, ปติวินา.
#จนฺทิมา (พระจันทร์, ดวงเดือน, อีเกิ้ง) จนฺทิมนฺตุ+สิ
#วีจึ (เคลื่อนทะเล) วีจิ+อํ, หรือเป็น วีจึวินา,วีจิวินา ก็ได้.
#จ (และ, ด้วย) นิบาต
#อณฺณโว (อรรณพ, ทะเล) อณฺณว+สิ
#หํสํ (หงส์) หํส+อํ, หรือเป็น หํสํวินา, หํสวินา ก็ได้.
#โปกฺขรณี,
#ปตึ (เจ้าของ, ผัว, สามี) ปติ+อํ
#กญฺญา (สาวน้อย, นางสาว, หญิง) กญฺญา+สิ
#โสภเต (ย่อมงาม, สง่า) สุภ+อ+เต ภูวาทิ. กัตตุ. ในกวิทัปปณนีติบาทคาถาสุดท้ายนี้ เป็น ปติวินา กญฺญา โสเภฯ.
……………….
Keine Kommentare:
Kommentar veröffentlichen